Thursday, July 5, 2012

ดูกราฟหุ้น ใช้โปรแกรมไหนดี?

นักลงทุนหลายๆ ท่านคงเคยสงสัยว่า ตอนที่เราต้องการดูกราฟหุ้น เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้ว จะดูได้จากที่ไหน หรือว่าจะต้องใช้โปรแกรมอะไร? หากเป็นเมื่อประมาณสิบห้าปีที่แล้ว การดูกราฟเหล่านี้ อาจหาได้ที่ห้องค้าหลักทรัพย์เท่านั้น เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลก้าวหน้ามากขึ้น โปรแกรมสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค ก็ได้รับการพัฒนาตามไปด้วย
ในปัจจุบันนี้ ที่ฮ๊อตฮิตที่สุด คงหนีไม่พ้นโปรแกรม eFin Smart Portal จากค่าย eFinance Thai ซึ่งให้บริการฟรี โดยนักลงทุน ต้องเข้าไปใช้งานผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกอยู่เท่านั้น ตัวโปรแกรม eFin Smart Portal นี้ มีความสามารถมากมาย ทั้งข้อมูลทางด้าน Fundamental เช่น งบการเงิน ประมาณการผลการดำเนินการ ข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับบริษัท กราฟทางเทคนิคและเครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เรียกได้ว่าครบเครื่องกันเลยทีเดียว

ทางด้านเทคนิคแล้ว eFinance ก็นับว่ายังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ในเรื่องของการปรับแต่งหน้าตากราฟ และการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ต้องใช้เครื่องมือหลายชนิดร่วมกัน เช่น EMA, MACD, RSI, Stochastic เมื่อดูพร้อมๆ กัน หน้าตาของกราฟยังดูไม่ดีนัก เนื่องจากการปรับแต่งหน้าตา ทำได้จำกัด จึงทำให้ดูยุ่งเหยิงไปซะหมด

นอกจาก eFin แล้ว ยังมีโปรแกรมยอดนิยมตลอดกาล (ในต่างประเทศ) อย่างโปรแกรม MetaStock ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Equis International ของ Thomson Reuters ก็เป็นเครื่องมือที่ดีในการวิเคราะห์ทางด้านเทคนิคได้เช่นกัน 

ตัว MetaStock นี้ มีจุดเด่นมากในด้านของการวิเคราะห์ทางเทคนิค ทั้งในแง่ของการปรับหน้าตากราฟให้สวยงาม นักลงทุนยังสามารถสร้าง Indicators ขึ้นใช้ได้เอง ยังไม่พอ MetaStock ก็มาพร้อมกับ Power Tools อีกสามชนิด ได้แก่ The Explorer, Expert Adviser, และ Advance System Tester ในการช่วยให้นักลงทุนสามารถค้นหาหุ้นที่ตรงกับเงื่อนไข (ทางเทคนิค) ที่ต้องการ นำหุ้นนั้นไปวิเคราะห์หาจุดซื้อ/ขาย และทำการทดสอบย้อนหลังเพื่อหาประสิทธิภาพในการทำกำไรได้อีกด้วย

ข้อเสียของ MetaStock ก็มีไม่น้อย เพราะ MetaStock นั้นไม่ใช่โปรแกรมฟรี (อย่างน้อยก็ต้องไปหาก๊อปปี้โปรแกรมจากแหล่งที่คุณก็รู้ว่าที่ไหน) อีกทั้งยังไม่สามารถค้นหาข้อมูล Fundamental สำหรับหุ้นไทยได้เลย ข่าวสารก็ไม่มีให้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังต้องคอยหาข้อมูลหุ้นมาป้อนให้กับ MetaStock เองอีกต่างหาก (สามารถใช้บริการ data feed เช่น จาก set.or.th, investor.co.th เป็นต้น ซึ่งก็ต้องมีค่าใช้จ่ายตามมา)  ด้วยความยุ่งยากเหล่านี้ ทำให้นักลงทุนหลายท่าน จึงมองข้าม MetaStock และยกตำแหน่งยอดนิยมให้กับ eFinance แทน

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนหลายๆ ท่านก็สามารถค้นหาแหล่ง real-time data feed หรือ end-of-day data feed โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือเสียค่าใช้จ่ายนิดหน่อย (ปีละ 600 บาท) ซึ่งก็นับว่าคุ้มค่ามาก เมื่อเทียบกับการนำข้อมูลที่ได้รับ ไปใช้ในการทำกำไรจากการลงทุนด้วยระบบที่เหมาะสม

โดยส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนเห็นว่า ไม่ว่าจะใช้โปรแกรมไหนเป็นเครื่องมือเพื่อใช้ในการเลือกลงทุนในหุ้นก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีความรู้ที่ถูกต้อง และมีความเข้าใจถึงข้อดีข้อเสียของโปรแกรมนั้นๆ จึงจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ นักลงทุนควรจะพิจารณาถึงเครื่องมือที่จะใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคให้สอดคล้องกับลักษณะนิสัยและสภาพแวดล้อมของตนด้วย 


ขอสติ จงอยู่กับท่าน ขอบคุณครับ

No comments:

Post a Comment