Friday, December 12, 2014

Scanner: SET100 RSI Oversold 11-December-2014

ตอนหุ้นตกหลายๆ คนอาจจะตื่นตกใจจนลืมไปว่านี่เป็นโอกาสในการเลือกซื้อหุ้นที่ราคาถูกๆ นะครับ ทีนี้ก็มักจะมีปัญหาว่าจะดูหุ้นตัวไหนดี ก็ในเมื่อมันแดงเถือกทั้งตลาดแบบนี้อะนะ

คำแนะนำง่ายๆ ก็คือดูที่ RSI Oversold ครับ กรองหุ้นที่มีค่า RSI < 30 ไม่ว่าจะใช้โปรแกรม MetaStock eFinance (ที่ทุกโบรกเกอร์มีให้แล้ว) หรือโปรแกรมอื่นๆ จากนั้นก็มาติดตามดูว่าหุ้นที่ RSI เข้าเขต Oversold จะมีการกลับตัวเมื่อไหร่

จุดที่ราคาวกกลับนี่แหละครับ เป็นจุดที่เราจะเข้าซื้อ อ้อ...อย่าลืมวาง Stop Loss ด้วยนะครับ เพราะเราไม่รู้อนาคตหรอกครับว่าหุ้นจะกลับตัวขึ้น หรือกลับตัวนิดเดียวแล้วร่วงลงต่ออีก ถ้ากลับตัวขึ้นจริงก็เป็นจุดที่เราซื้อได้ในราคาถูก หากเด้งแล้วลง เราก็จะขาดทุนแค่ที่เราวาง Stop Loss ไว้ครับ

ลองดูตัวอย่างกันนิดนึงว่าผลการ Scan หุ้นที่ RSI Oversold เมื่อสิ้นวันที่ 11 ธันวาคม 2557 มีตัวไหนบ้าง


พอเราได้ List มาแล้วก็มาวิเคราะห์หุ้นที่น่าสนใจกันรายตัวนะครับ ในที่นี้ผมกำลังสนใจอยากเป็นเจ้าของบ้านจัดสรรและคอนโด เลยเลือกหุ้นมาตัวนึงคือ LH เราก็มาดูกราฟกันก่อน


จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า RSI ตกอยู่ใน Zone Oversold เรียบร้อยแล้ว เราก็สังเกตดูที่ราคา ก็พบว่ามันตกมาที่แนวรับพอดี จึงรอดูต่อไปว่าราคาจะหยุดอยู่ที่แนวนี้และกลับตัวขึ้นหรือไม่ ถ้าเกิดราคาตกลงไปมากเกินกว่าแนวรับนี้ ก็ถือว่าเป็นข่าวดีนะครับ (อ้าว! ไหงงั้นล่ะ) เพราะมันจะเป็นโอกาสให้เราสามารถซื้อหุ้นได้ในราคาที่ถูกลงไปกว่านี้อีก (แน่ะ! ดีใจแล้วใช่ไหมครับ)

มาแอบส่องดูพื้นฐานกิจการกันหน่อย


ข้อมูลจากโปรแกรม eFinance ที่ได้ใช้กันฟรีๆ นี่แหละครับ เอามาปรับแต่งนิดๆ หน่อยๆ ให้เหลือแต่ข้อมูลที่เราสนใจจริงๆ ไม่ต้องดูอะไรมากมายนักนะครับ เรา Focus ไปที่ยอดขาย กำไร และ %Net Profit Margin กันก่อน

ตัวนี้น่าสนใจเพราะยอดขายอยู่ในระดับที่ไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่นัก แต่ %Net Profit Margin ดีขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายบริษัทลดลง ทำให้กำไรดีขึ้น ปันผลจ่ายประมาณ 40 สตางค์ต่อหุ้นต่อปี เทียบกลับมาเป็น Dividend Yield ได้ประมาณ 4% ต่อปี (คิดจากราคาหุ้น 9.40 บาท) ก็นับว่าน่าสนใจพอสมควรนะครับ และตัวบริษัทก็ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกในอนาคต ราคาอาจจะวิ่งไปถึงเป้าที่ 12 บาทก็เป็นได้นะครับ

ส่วนที่น่ากังวลเกี่ยวกับตัวกิจการก็คือ ยอดขายที่ตกลงมาบ้างในช่วงปีที่ผ่านมา และ Dividend Yield ที่ไม่ค่อยน่าดึงดูดใจเท่าไหร่นัก (คือจ่ายปันผลเท่าๆ เดิม แต่ราคาหุ้นวิ่งขึนไปสูง) จุดนี้ก็อาจจะไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการเน้นเงินปันผลเป็นหลักนะครับ เว้นเสียแต่ว่าจะสามารถดักซื้อได้ที่ราคาถูกๆ และได้ Dividend Yield สูงๆ

เตือนกันอีกครั้งว่านี่เป็นแค่ตัวอย่างการวิเคราะห์ของผมนะครับ ไม่ได้เป็นการชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นแต่อย่างใดเน้อ

ป.ล. ถ้าซื้อแล้วกำไรก็เอามาแบ่งกันบ้าง เอ้ยไม่ใช่ แบ่งไปทำบุญทำทานกันบ้างนะคร๊าบ

No comments:

Post a Comment