Wednesday, April 3, 2013

จะใช้เบ็ดตกปลาหรือจะเหวี่ยงแห?

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
บ่อยครั้งที่เรามักจะมีคำถามในใจเสมอๆ ว่าเราควรจะลงทุนในหุ้นตัวเดียวเน้นๆ ไปเลย หรือจะกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในหุ้นหลายๆ ตัว คำตอบที่ได้ก็ไม่มีผิดหรือถูกนะครับ เพราะเราจะลงทุนแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัย ความถนัด ความชอบส่วนตัวของแต่ละคน และกลยุทธ์ในการลงทุนให้เหมาะสมในสถานการณ์ต่างๆ กัน

เราลองมาดูข้อดีข้อเสียของการลงทุนแบบเน้นๆ กันนะครับ วิธีนี้เราจะทุ่มเทกำลังไปที่หุ้นเพียงตัวเดียว (หรือสองสามตัว ขึ้นอยู่กับการแบ่งเงินของเรา) การที่เราทุ่มเงินแบบนี้ ทำให้เวลาที่ได้กำไร ก็จะได้เป็นกอบเป็นกำ แต่อย่าลืมว่า หากขาดทุนขึ้นมา ก็มีสิทธิ์เจ็บหนักได้เหมือนกันนะครับ เรียกได้ว่า ไม่รวยก็จนไปเลย เปรียบได้กับการตกปลาโดยใช้เบ็ด บางทีเราก็ได้ปลาตัวใหญ่ แต่หลายครั้งก็ตกปลาไม่ได้เลย แถมยังอาจจะเสียเหยื่อล่อปลาไปอีกต่างหาก

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ส่วนการลงทุนแบบกระจายไปในหุ้นหลายๆ ตัว (7 ตัวขึ้นไป) และกระจายไปในหลายๆ อุตสาหกรรม จะเน้นในเรื่องการลดความเสี่ยงมากกว่าความสามารถในการทำกำไร โดยมีแนวคิดว่า การที่เรามีหุ้นหลายๆ ตัว บางตัวก็ขึ้น บางตัวก็ลง และโดยสถิติแล้ว การที่เราซื้อหุ้นแล้วจะขาดทุนทุกตัว มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย (และโอกาสที่จะกำไรทุกตัวก็เกิดขึ้นได้น้อยเหมือนกัน) ถึงแม้กำไรที่ได้จากการกระจายการลงทุน จะไม่มากเท่ากับการลงทุนแบบเน้นๆ แต่ก็มีข้อดีคือสามารถลดทอนความเสียหายจากการขาดทุนได้พอสมควร แต่ก็จะต้องใช้จำนวนเงินลงทุนที่มากพอที่จะกระจายไปยังหุ้นได้หลายๆ ตัวอีกด้วย (เท่าที่ทราบมาก็มีนักลงทุนที่กระจายการลงทุนไปยังหุ้นในกลุ่ม SET 100 โดยใช้เงินลงทุนประมาณสองล้านบาท) จะว่าไปแล้วก็เหมือนกับการเหวี่ยงแหจับปลา ซึ่งเราก็อาจจะได้ปลาดีๆ ตัวเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ปะปนมากับเศษขยะที่เราไม่ต้องการ และในบางครั้ง ก็อาจจะได้ขยะมามากกว่าที่จับปลาได้ซะอีกแน่ะ...


ทั้งนี้ การจะเลือกกลยุทธ์การลงทุนแบบไหนนั้น เราจะต้องย้อนกลับมามองดูความพร้อมของเราก่อน ง่ายๆ เลยก็คือด้านความรู้และเงินทุน ดังภาพ


หากเรามีความพร้อมทั้งด้านความรู้ ทุนทรัพย์ และสามารถรับความเสี่ยงได้ เราก็ควรเลือกที่จะลงทุนแบบเน้นๆ (Focus) เพื่อสร้างกำไรสูงสุด ส่วนคนที่มีความรู้ รับความเสี่ยงได้มาก แต่ทุนทรัพย์ยังน้อย (แต่อยากรวยเร็วๆ) ก็สามารถลงทุนแบบเน้นๆ ได้เลยเพื่อเพิ่มเงิน สำหรับคนที่มีเงินพอสมควร แต่ความรู้ยังไม่มากนัก ก็อาจจะเลือกลงทุนไปในหุ้นหลายๆ ตัว (Diversify) เพื่อลดความเสี่ยงลง (กำไรก็จะลดลงบ้าง) และพอมีกำไรเข้ามาแล้วพอสมควร ก็อาจพิจารณาลงทุนเพิ่มในหุ้นแบบเน้นๆ เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นในการลงทุนบ้างก็ได้นะครับ

สำหรับกลุ่มสุดท้ายที่ความรู้ยังไม่มาก เงินก็ยังไม่มี กลุ่มนี้ ผมแนะนำให้ลงทุนในตัวเองด้วยการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม จะคุ้มค่ามากที่สุด แล้วค่อยนำความรู้นั้นไปประยุกต์ใช้ในการลงทุนต่อไปนะคร๊าบบบบบ

ขอสติจงมีแด่นักลงทุนทุกท่าน แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าครับผม

No comments:

Post a Comment